พระผู้สร้าง![]() พระผู้สร้าง (อังกฤษ: Creator) หมายถึง พระเป็นเจ้า (ตามความเชื่อแบบเอกเทวนิยม) หรือเทวดาผู้เป็นใหญ่ (ตามความเชื่อแบบพหุเทวนิยม) ที่มีอำนาจบันดาลให้โลก (ทั้งเอกภพและจักรวาล) เกิดขึ้น เทวนิยมศาสนายูดาห์และศาสนาคริสต์ชาวยิวและคริสต์ศาสนิกชนเชื่อเรื่องตำนานการสร้างโลกตามหนังสือปฐมกาล บทที่ 1 ข้อที่ 1 ที่ระบุว่าพระยาห์เวห์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกขึ้น และมีพระวจนะก่อให้เกิดสรรพสิ่งต่าง ๆ ทั้ง เวลา พืช สัตว์ มนุษย์ และอมนุษย์ เสร็จภายใน 6 วัน โดยมีลำดับดังนี้[1]
การทรงสร้างนี้เป็นไปอย่างเจาะจง ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นตามชนิดของมันเอง ไม่มีการวิวัฒนาการสายพันธุ์ไปเป็นอย่างอื่น คริสต์ศาสนิกชนเชื่อต่างจากชาวยิวตรงที่มองว่าการสร้างโลกไม่ได้เกิดจากพระยาห์เวห์เพียงบุคคลเดียว แต่พระตรีเอกภาพอีก 2 พระบุคคล คือ พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็มีส่วนร่วมในการสร้างด้วย เพราะทรงสร้างสรรพสิ่งด้วยพระวจนะ ซึ่งพระวรสารนักบุญยอห์นระบุว่าพระวจนะทรงรับเป็นมนุษย์คือพระเยซู[2] ศาสนาฮินดูศาสนิกชนฮินดูมีพัฒนาการความเชื่อเรื่องตำนานการสร้างโลกมายาวนานดังระบุไว้ในคัมภีร์ต่าง ๆ โดยแต่ละคัมภีร์จะให้ข้อมูลแตกต่างกันไป คัมภีร์พระเวทระบุว่า พรหมันสร้างน้ำและใส่พีชะลงไป เกิดเป็นหิรัณยครรภ์ พระพรหมอุบัติขึ้นจากครรภ์นี้แล้วสร้างสรรพสิ่งต่อมาจนแล้วเสร็จเป็น 1 วันพระพรหม จากนั้นจึงบรรทมไป จนกระทั่งโลกแตกสลายไปด้วยไฟบรรลัยกัลป์ คงเหลือแต่พรหมฤๅษี เทวดาทั้งหลาย และธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ พระพรหมก็ตื่นจากบรรทมแล้วสร้างโลกขึ้นใหม่อีกครั้งแล้วบรรทมอีก จนกระทั่งเกิดไฟบรรลัยกัลป์อีกครั้ง เป็นเช่นนี้จนครบ 100 ปีพระพรหมจะเกิดมหาประลัย คือทุกสรรพสิ่งไม่เว้นแม้แต่พระพรหมจะถูกทำลายหมดสิ้นกลับไปสู่ธาตุดั้งเดิม[3] ต่อมาได้เกิดความเชื่อเรื่องตรีมูรติขึ้นหลังพุทธศตวรรษที่ 8 โดยถือว่ามหาเทพมี 3 องค์ คือพระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ และเชื่อว่าพระพรหมคือพระผู้สร้างโลก ต่อมาได้เกิดลัทธิไวษณพขึ้น ซึ่งถือเอาพระวิษณุเป็นพระเป็นเจ้าแท้จริงเพียงพระองค์เดียว เป็นผู้สร้างพระพรหม มอบหมายให้ทำหน้าที่สร้างโลก ฝ่ายผู้นับถือพระศิวะก็ได้พัฒนาลัทธิไศวะขึ้นมาเช่นกัน โดยยกย่องพระศิวะเป็นพระเจ้า และถือว่าการที่พระศิวะทำลายล้างโลกก็เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์โลกขึ้นใหม่ ดังนั้นพระศิวะจึงเป็นพระผู้สร้างด้วย[4] อเทวนิยมศาสนาพุทธพุทธศาสนิกชนปฏิเสธความเชื่อเรื่องพระผู้สร้าง (อิสสรนิมมานวาท) และถือว่าเป็นความเชื่อนอกรีตพระพุทธศาสนา[5] เกวัฏฏสูตรระบุว่าสัตว์ทั้งหลายแม้แต่เทวดาบนสวรรค์ก็หลงผิดว่ามีพระเจ้า เป็นผู้ประเสริฐและยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นมหาพรหม ได้เนรมิตสร้างสิ่งต่าง ๆ และลิขิตสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปตามอำนาจ แต่เมื่อภิกษุรูปหนึ่งซักถามเรื่องความดับของมหาภูตรูป 4 กับมหาพรหม มหาพรหมนั้นก็ตอบไม่ได้ และที่สุดก็ยอมรับความจริงว่าตนเองไม่ได้รู้จริง แต่พวกเทวดาเข้าใจผิดไปเองว่าตนเป็นพระเจ้า[6] อ้างอิง
บรรณานุกรม |
Portal di Ensiklopedia Dunia