ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ
ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ (เกิด 2 ธันวาคม พ.ศ. 2525 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550) ชื่อเล่น บิ๊ก เป็นนักร้องและนักแสดงชาวไทย อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ดีทูบี สังกัดอาร์เอส ประวัติชีวิตตอนต้นและการศึกษาปาณรวัฐ มีชื่อเดิมว่าอภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2525 บิ๊กเป็นบุตรชายคนเดียวของอุดม กิตติกรเจริญ กับ ยุพา กิตติกรเจริญ (ถึงแก่กรรมแล้ว) เข้ารับการศึกษาระดับปฐมวัยจากโรงเรียนอนุบาลเทพารักษ์ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเพ็ญสมิทธ์ กรุงเทพมหานคร และเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาควิชาวิทยุโทรทัศน์ สาขาภาพยนตร์ ในชั้นปีที่ 2 บิ๊กเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการประกวดร้องเพลงในโครงการพานาโซนิค สตาร์ ชาเลนจ์ ในปี พ.ศ. 2543 โดยใช้เพลง "งมเข็มในทะเล" ของโดม–ปกรณ์ ลัมในการประกวด เริ่มมีผลงานโฆษณา SWENSEN, PEPSI และถ่ายแบบลงนิตยสารวัยรุ่นอย่าง “เธอกับฉัน”[1] ก่อนจะมาเป็นหนึ่งในสมาชิกวง "ดีทูบี (D2B)" ในปี พ.ศ. 2544 บิ๊กมีความสามารถพิเศษในการควงพลองไฟและกระโดดลอดห่วงไฟ ซึ่งเขาเคยแสดงในรายการ สมาคมชมดาว กับ ตี10 ตามลำดับ[1] ประสบอุบัติเหตุและการเสียชีวิตขณะที่ดีทูบีกำลังโด่งดังถึงขีดสุด หลังจากได้รับรางวัลศิลปินยอดนิยมจาก "MTV Asia Award 2003" ที่ประเทศสิงคโปร์ มาได้ไม่นาน[2][3] ก็เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ในช่วงเวลา 01.15 น. ของคืนวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546[4] บิ๊กได้ขับรถยนต์ของตนเพื่อกลับบ้านหลังจากแสดงคอนเสิร์ตเสร็จ[5] แต่กลับประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำที่ถนนศรีนครินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ จึงนำส่งโรงพยาบาล[6][7] มีน้ำครำท่วมปอดแต่การรักษาเป็นไปได้ด้วยดีเมื่อบิ๊กรู้สึกตัว ก็สามารถทักทายแฟนเพลงได้อีกครั้ง ก่อนกลายเป็นฝันร้ายเมื่อเขาเข้าสู่อาการโคม่าก่อนแพทย์ตรวจพบเชื้อรา Scedosporium ในสมองในวันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งโอกาสรอดชีวิตมีเพียง 0.01% เท่านั้น หลังจากนั้นทางครอบครัวได้เปลี่ยนชื่อเขาเป็น ปาณรวัฐ ซึ่งเป็นชื่อขอพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร มีความหมายว่า "ผู้มีชีวิตอยู่ตามคำขอ" เพื่อเป็นสิริมงคล[8] ภายหลังการรักษาด้วยวัคซีนเฉพาะโรคและได้รับกำลังใจอย่างมากมาย บิ๊กรอดชีวิตและออกจากห้องไอซียูในเวลาต่อมา แต่กลายเป็นเจ้าชายนิทราซึ่งสร้างความเศร้าโศกแก่แฟนเพลงอย่างแสนสาหัส จึงเกิดปรากฏการณ์พับนกกระดาษส่งกำลังใจให้กันทั่วประเทศ[9] โดยทางทางต้นสังกัด คือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ได้จัดคอนเสิร์ตพิเศษในชื่อ "ดีทูบี เดอะ เนเวอร์-เอ็นดิ้ง คอนเสิร์ต : ทริบูต ทู บิ๊ก ดีทูบี" ขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2547 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงบิ๊ก และถือเป็นการยุติวงดีทูบีไปในตัว โดยรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ได้มอบให้ครอบครัวของบิ๊ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วย[10] ส่วนอาการของบิ๊กเบื้องต้นยังเป็นไปได้ด้วยดี ยังมีความรู้สึกตัวดี แต่ไม่นาน ก็ต้องนอนโดยไม่รู้สติ เพราะสมองถูกเชื้อโรคที่มาจากน้ำเน่าในคูทำลาย แฟนคลับที่ทราบข่าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่นหญิง ต่างพากันไปเยี่ยมเยือนและร้องไห้เป็นกลุ่มจำนวนมากกลุ่มหนึ่ง การรักษา คณะแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตบิ๊กด้วยการให้ยาและผ่าตัดอยู่หลายครั้ง รวมถึงยาตัวใหม่ที่เพิ่งมีการผลิตออกมาด้วย แต่ก็ทำได้เพียงช่วยไม่ให้เสียชีวิตเท่านั้น แต่สมองก็ยังไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น ได้ย้ายที่รักษาไปหลายแห่ง และต้องนอนรักษาตัวอยู่นานถึง 4 ปี โดยมี น.พ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ เป็นแพทย์เจ้าของคนไข้ ซึ่งคณะแพทย์ผู้รักษาได้เปิดแถลงข่าว ความคืบหน้าของอาการเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งเวลา 09.30 น. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550 บิ๊กเสียชีวิตลงในที่สุด ที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดทางปอด รวมอายุได้ 25 ปี กับ 1 สัปดาห์ หลังเป็นเจ้าชายนิทราจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ถึง 4 ปี[11] ต่อมา ศิลปินค่ายอาร์เอสกับศิลปินค่ายกามิกาเซ่ รุ่นบุกเบิกและแฟนคลับทั่วประเทศต่างก็มาร่วมไว้อาลัย บิ๊ก เป็นจำนวนมากครั้งสุดท้าย โดยทางสำนักข่าวสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวีหรือช่อง 9 เดิม กล่าวว่า บิ๊กเป็นผู้ป่วยชาวไทยคนแรกของเอเชีย ที่ป่วยเป็นเชื้อราร้าย Scedosporium จึงเป็นข่าวดังที่สนใจไปทั่วโลกเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น[12] พิธีงานศพและรำลึกพิธีศพของบิ๊กถูกจัดขึ้นที่ศาลา 3 วัดหนามแดง (จังหวัดสมุทรปราการ) (ซึ่งเป็นศาลาที่ใช้ทำบุญวันเกิดบิ๊กตลอด 4 ปี ที่เป็นเจ้าชายนิทรา) โดยมีการสวดอภิธรรม 7 วัน ก่อนจะมีพิธีบรรจุศพ ซึ่งครอบครัวกิตติกรเจริญ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานพวงมาลาหน้าศพ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพวงมาลา และทรงเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม 7 วัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ, สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ประทานพวงมาลาหน้าศพ และตลอดระยะเวลา 100 วันที่ได้มีการบรรจุศพของบิ๊ก จะมีการสวดพระอภิธรรมทุกวันพระใหญ่ โดยจะมีแฟนคลับและผู้ที่มีความผูกพันกับบิ๊กไปร่วมงานเสมอ วันทำบุญครบรอบ 50 และ 100 วันก็มีการถวายภัตตาหาร และทำบุญร่วมกัน ซึ่งจะมีคนมาร่วมงานมากกว่าปกติ วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นวันสวดอภิธรรมวันสุดท้าย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้ในพระราชานุเคราะห์ และครอบครัวกิตติกรเจริญก็ได้รับพระมหากรุณาสูงสุด เมื่อได้รับพระราชทานเพลิงศพจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จแทนพระองค์มาพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดยตลอดวันมีผู้คนเป็นจำนวนมากมาร่วมไว้อาลัยบิ๊กเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีหลายคนที่ปักหลักอยู่ที่วัดหนามแดง จนกระทั่งได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทางวัดหนามแดงว่าศพได้เผาหมดแล้ว จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน และในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2551 ครอบครัวและคนใกล้ชิด ได้นำอัฐิของบิ๊กไปลอยอังคารที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แม้ทุกวันนี้บิ๊กจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่แฟนคลับ และคนใกล้ชิด ก็ยังแวะไปเยี่ยมเยือนครอบครัวกิตติกรเจริญเสมอ[13] โดยมีงานทำบุญครบรอบวันคล้ายวันเสียชีวิตในวันที่ 9 ธันวาคมของทุก ๆ ปี โดยมีแดน-วรเวช ดานุวงศ์ และบีม-กวี ตันจรารักษ์ มาร่วมงานทำบุญนี้ด้วยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา ผลงานอัลบั้มเพลง
คอนเสิร์ต
ละครโทรทัศน์
ภาพยนตร์
รางวัลที่ได้รับ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia