ปลาสร้อยลูกกล้วย หรือ ปลามะลิเลื้อย (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Labiobarbus siamensis )[ 6] [ 7] เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในสกุลปลาสร้อยลูกนุ่น (Labiobarbus ) ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae)
ถิ่นที่อยู่
ปลาสร้อยลูกกล้วยมีถิ่นกำเนิดและอาศัยในไทย (พบได้ทั่วทุกภาค โดยเฉพาะในแม่น้ำสายหลักและสาขาในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำบางปะกง และลุ่มน้ำโขง ); ลาว (เช่นในลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำเซบั้งไฟ และลุ่มน้ำเทิน ); กัมพูชา (เช่นที่ทะเลสาบเขมร และแม่น้ำโขงที่จังหวัดสตึงแตรง ) และภาคใต้ของเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีรายงานการพบเห็นที่บริเวณเขื่อนเจินเดอโระฮ์ในรัฐเปรัก ทางภาคเหนือของมาเลเซียตะวันตก แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน[ 2]
ลักษณะ
ปลาสร้อยลูกกล้วยมีขนาดยาวประมาณ 10–18 เซนติเมตร[ 6] ลำตัวเพรียวยาว หัวเล็ก หางคอด และปากเล็ก มีหนวดที่มุมปาก 2 คู่ ยาวเลยขอบหลังตา [ต่างจากปลาสร้อยลูกนุ่น หรือปลาหลาวทอง (L. leptocheilus ) ซึ่งมีหนวดมุมปากสั้นกว่า ไม่ถึงขอบหลังตา][ 8] ลำตัวสีเงินวาว เกล็ดเล็ก มีแถบสีคล้ำ 5–6 แถบ พาดไปตามความยาวของลำตัว เกล็ดใต้ท้องสีขาวนวล ครีบสีจางหรือเหลืองอ่อน ครีบหลังเป็นแผงยาวถึงโคนหาง ครีบหางเว้าลึก สีเหลืองออกแดงเรื่อ ๆ บางตัวมีแต้มจุดที่หลังครีบอกและโคนหาง
พฤติกรรม
ปลาสร้อยลูกกล้วยอาศัยอยู่ทั้งในแหล่งนํ้านิ่งและแหล่งนํ้าไหล ไม่ว่าจะเป็นหนองบึงหรือแม่น้ำลำธารก็ตาม เป็นปลาที่มีชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงประมาณ 10–20 ตัวหรือมากกว่านั้น และมักพบรวมกับปลาสร้อย ชนิดอื่น ๆ โดยจะอยู่บริเวณพื้นทรายหรือบริเวณน้ำตื้นใกล้ตลิ่งที่มีกองไม้ ท่อนไม้ ต้นหญ้า เพื่อหาอาหาร ซึ่งได้แก่ สัตว์หน้าดินขนาดเล็กและแพลงก์ตอน จำพวกพืช ตะไคร่น้ำ และไรน้ำ
ในอดีต ปลาสร้อยลูกกล้วยมีอยู่อย่างชุกชุม เมื่อตกใจจะกระโดดขึ้นจากผิวน้ำพร้อมกันทำให้เกิดเสียงดังซ่า จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ปลาซ่า "[ 9] ซึ่งเป็นชื่อสามัญ ที่ใช้เรียกปนกับปลาสร้อยชนิดอื่น ๆ ที่มีพฤติกรรมเหมือนกัน เช่น ปลาสร้อยนกเขา (O. vittatus ) ในสกุลปลาสร้อยนกเขา (Osteochilus );[ 10] ปลาสร้อยลูกนุ่น (L. leptocheilus ), ปลาสร้อยลูกกล้วยลาย (L. lineatus ) ในสกุลปลาสร้อยลูกนุ่น [ 11] เป็นต้น นอกจากนี้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังมีชื่อเรียกปลาสร้อยชนิดต่าง ๆ ในสกุลปลาสร้อยลูกนุ่นนี้ว่า "ปลาคุยลาม" ด้วย
การใช้ประโยชน์
ปลาสร้อยลูกกล้วยรวมทั้งปลาสร้อยชนิดอื่น ๆ เป็นที่นิยมบริโภคกันทั่วไป โดยนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี เช่น ทอด ย่าง ต้มแกง เข้าเครื่องลาบ หรือแปรรูปเป็นปลาแห้ง ปลาส้ม ปลาร้า เป็นต้น ในอดีตครั้งยังพบชุกชุมมีการนำมาทำน้ำปลา นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาตู้เพราะมีความสวยงามและอดทน[ 12]
อ้างอิง
↑ Allen, D.J. (2011). "Labiobarbus siamensis " . IUCN Red List of Threatened Species . 2011 : e.T180901A7654671. doi :10.2305/IUCN.UK.2011-1.RLTS.T180901A7654671.en . สืบค้นเมื่อ 12 November 2021 .
↑ 2.0 2.1 Allen, D.J. (2013). "Labiobarbus siamensis " . IUCN Red List of Threatened Species . 2013 . สืบค้นเมื่อ 2015-11-29 .
↑ 3.0 3.1 Kottelat, M. "The fishes of the inland waters of southeast Asia: a catalogue and core bibliography of the fishes known to occur in freshwaters, mangroves and estuaries." the Raffles Bulletin of Zoology Supplement 27 (2013): 1-663.
↑ Roberts, Tyson R. "Systematic revision of the Southeast Asian cyprinid fish genus Labiobarbus (Teleostei: Cyprinidae)." The Raffles Bulletin of Zoology 41, 2 (1993): 315-329.
↑ FishBase. "Synonyms of Labiobarbus siamensis (Sauvage, 1881). [Online]. Available: http://www.fishbase.org/Nomenclature/SynonymsList.php?ID=27192&SynCode=61600&GenusName=Labiobarbus&SpeciesName=siamensis [n.d.]. Retrieved November 1, 2015.
↑ 6.0 6.1 สำนักงานความหลากหลายทางชีวภาพด้านป่าไม้. กรมป่าไม้. "ปลาสร้อยลูกกล้วย." ระบบจัดการฐานความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://biodiversity.forest.go.th/index.php?option=com_dofanimal&view=showanimal&id=849 เก็บถาวร 2016-03-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 3 ธันวาคม 2558.
↑ ชวลิต วิทยานนท์. คู่มือปลาน้ำจืด . กรุงเทพฯ : สารคดี, 2547. 232 หน้า. หน้า 149. ISBN 9744841486
↑ Siamensis.org. "Species : Labiobarbus leptocheilus." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://siamensis.org/species_index#36376--Species : Labiobarbus leptocheilus 2555. สืบค้น 3 ธันวาคม 2558.
↑ กรมประมง. ภาพปลาและสัตว์น้ำไทย. อ้างถึงใน http://dictionary.sanook.com/search/labiobarbus-siamensis [ลิงก์เสีย ] . สืบค้น 3 ธันวาคม 2558.
↑ ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2556, หน้า 399.
↑ ณรงค์ วีระไวทยะ และคณะ. โครงการเสริมสร้างการบูรณาการจัดการระบบนิเวศพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมปากแม่น้ำบางปะกง : รายงานฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองประสานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2555, ภาคผนวก ค - 8.
↑ สมโภชน์ อัคคะทวีวัฒน์. สาระน่ารู้ปลาน้ำจืดไทย เล่ม ๑ . กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2547. 264 หน้า. หน้า 98. ISBN ISBN 974-00-8701-9 ข้อผิดพลาดพารามิเตอร์ใน {{ISBN }}: invalid character
แหล่งข้อมูลอื่น