จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์
เซาท์ฮอลแลนด์ (อังกฤษ: South Holland) หรือ เซาด์-โฮลลันด์ (ดัตช์: Zuid-Holland, ออกเสียง: [ˌzœyt ˈɦɔlɑnt] ) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเหนือ ทางตะวันตกของประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองหลักของจังหวัดคือเมืองเดอะเฮก และเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือรอตเทอร์ดาม จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์เป็นหนึ่งในที่ที่มีความหนาแน่นประชากรมากที่สุดในโลก และเป็นแหล่งอุตสาหกรรม มีประชากร 3,705,625 คน[6] (1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019) มีพื้นที่ 3,419 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไรน์-เมิซ-สเกลต์ จึงเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป คือ ท่าเรือรอตเทอร์ดาม ประวัติศาสตร์มีหลักฐานช่วงก่อนประวัติศาสตร์ว่ามนุษย์ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเขตเซาท์ฮอลแลนด์ตั้งแต่เมื่อ 7,500 ปีก่อนและเริ่มทำเกษตรกรรมในอีก 2,000 ปีให้หลัง ต่อมาอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันโดยโดยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโลว์เออร์เจอร์เมเนีย เมื่อโรมันล่มสลาย เซาท์ฮอลแลนด์ตกเป็นของอาณาจักรฟรีเชียซึ่งต่อมาถูกอาณาจักรแฟรงก์เข้ายึดครองเมื่อปี ค.ศ. 636 ปลายคริตศตวรรษที่ 7 บาทหลวงวิลลิบรอร์ด ชาวแองโกล-แซกซอน ได้เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยเริ่มสร้างโบสถ์และค่อยๆเปลี่ยนให้ประชาชนในพื้นที่แถบนี้เป็นคริสตศาสนิกชน ต่อมา ในปี ค.ศ. 843 เมื่ออาณาจักรแฟรงก์ถูกแบ่งออกเป็นสามอาณาจักรย่อยตามสนธิสัญญาแวร์เดิง เซาท์ฮอลแลนด์ตกอยู่ในส่วนของอาณาจักรแฟรงก์ตะวันออก และกลายเป็นจุดกำเนิดของเคาน์ตีฮอลแลนด์ ชุนชนแรกในเซาท์ฮอลแลนด์ที่ได้รับการยกฐานะให้เป็นเมืองคือ ดอร์เดรชท์ โดยได้สิทธิความเป็นเมืองในปี ค.ศ. 1220 และเริ่มเรืองอำนาจในพื้นที่ แต่ก็ต้องเผชิญกับวิกฤตการน้ำท่อมบ่อยครั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ 14 และยังกลายเป็นสมรภูมิรบของสงครามฮุกและคอด อันเป็นสงครามกลางเมืองที่สิ้นสุดในปี ค.ศ. 1490 หากกล่าวโดยรวมแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของเซาท์ฮอลแลนด์ในยุคกลางเป็นพื้นที่ไร่นาเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พอเข้าสู่ศตวรรษที่ 16 ฮอลแลนด์เริ่มมีอำนาจขึ้นและกลายมาเป็นดินแดนทันสมัยของเหล่าพ่อค้า และโฉมหน้าของพื้นที่แถบนี้ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเข้าร่วมสงคราม 80 ปีกับสาธารณรัฐดัตช์ ประกาศอิสรภาพต่อการปกครองของสเปน เมื่อ ค.ศ. 1581 ![]() ในยุคสาธารณรัฐดัตช์ หลายเมืองในเขตเซาท์ฮอลแลนด์เริ่มมีบทบาทในฐานะเมืองแห่งการค้า ไม่ว่าจะเป็นไลเดิน เดลฟท์ เคาดา และดอร์เดรชท์ เจ้าชายวิลเลียมแห่งออเรนจ์ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งแรกขึ้นในเนเธอร์แลนด์ที่ไลเดิน นครเฮกที่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทของเคานต์ฮอลแลนด์ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของบริหารบ้านเมืองของประเทศ โดยมีรัฐบาลและรัฐสภาอยู่ที่อาคารบินเนนโฮฟ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ในศตวรรษที่ 17 พื้นที่ทางใต้ของฮอลแลนด์นิยมเรียกกันในชื่อ เซาเดอร์ควาเทียร์ อันหมายถึงพื้นที่หนึ่งในสี่ที่อยู่ทางใต้ เป็นดินแดนที่เป็นบ้านของนักวิทยาศาสตร์และนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น อันโตนี ฟัน เลเวินฮุก ผู้พัฒนากล้องจุลทรรศน์ คริสตียาน เฮยเคินส์ ผู้ค้นพบดวงจันทร์บริวารของดาวเสาร์ บารุค สปิโนซา หรือจิตรกรอย่าง โยฮันเนิส เฟอร์เมร์ แร็มบรันต์ และยัน สเตน เรื่องราวการเกิดขึ้นของจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ มีจุดเริ่มต้นจากยุคที่จักรพรรดินโปเลียนได้เข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์และปกครองในช่วง ค.ศ. 1795 ถึง 1813 ซึ่งเป็นช่วงที่เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแบบจังหวัดของชาวดัตช์อย่างมาก ในปี ค.ศ. 1795 นั้น ได้มีการล้มล้างระบบเดิมทิ้งไปและสถาปนาสาธารณรัฐปัตตาเวียขึ้น ประกอบไปด้วย 8 จังหวัด (département) ตามระบบการปกครองของฝรั่งเศส แต่ละจังหวัดมีจำนวนประชากรเท่า ๆ กัน ดินแดนทางใต้ของฮอลแลนด์จึงถูกแบ่งออกเป็น 3 จังหวัด เกาะต่างๆถูกผนวกเข้ากับจังหวัดเซลันด์ ทางตะวันออกถูกรวมเข้ากับจังหวัดสเกลต์เอ็นเมิซ และทางตอนเหนือกลายเป็นจังหวัดเดลฟท์ นอกจากนี้ พื้นที่เล็กๆบางส่วนทางตะวันออกถูกโอนไปยังจังหวัดไรน์ ระบบนี้คงอยู่มาจนถึงปี ค.ศ. 1801 เมื่อได้มีการรวมดินแดนหลายส่วนเป็นจังหวัดฮอลแลนด์ แต่อยู่ได้ไม่นานนักเพราะหลังจากนั้นได้มีการแบ่งฮอลแลนด์ออกเป็นสองส่วน คือ อัมสเทิลลันด์ (นอร์ทฮอลแลนด์ในปัจจุบัน) และมาสลันด์ (เซาท์ฮอลแลนด์ในปัจจุบัน) แต่ก็อยู่ได้ไม่นานอีกเช่นกัน เมื่อได้มีการผนวกรวมเนเธอร์แลนด์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิฝรั่งเศส อัมสเทิลลันด์ถูกผนวกรวมกับยูเทรกต์กลายเป็นจังหวัด "เซาเดอร์เซ" (ฝรั่งเศส: Zuyderzée) และมาสลันด์เปลี่ยนชื่อเป็น "โมนเดน ฟอน เดอ มาส" (ฝรั่งเศส: Bouches-de-la-Meuse) ในปี ค.ศ. 1810 แต่เมื่อจักรพรรดินโปเลียนพ่ายแพ้ในการรบเมื่อปี ค.ศ. 1813 ระบบการบริหารยังคงเดิม จนกระทั่งปีต่อมา เนเธอร์แลนด์ได้มีรัฐธรรมนูญใหม่ มีการจัดระบบระเบียบจังหวัดและภูมิภาคใหม่ทั้งประเทศ จังหวัดเซาเดอร์เซและโมนเดน ฟอน เดอ มาสได้ถูกผนวกรวมเข้าเป็นจังหวัด"ฮอลแลนด์" แต่ยังมีผู้ว่าราชการจังหวัด 2 คน คนหนึ่งรับผิดชอบจังหวัดอัมสเทิลลันด์เดิม และอีกคนรับผิดชอบจังหวัดมาสลันด์เดิม ดังนั้น แม้จะมีการรวมจังหวัด แต่พื้นที่ทั้งสองส่วนยังมีระบบที่แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้แนวคิดการแบ่งฮอลแลนด์ยังคงมีอยู่ เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี ค.ศ. 1840 จังหวัดฮอลแลนด์จึงถูกแบ่งเป็นสองจังหวัดอีกครั้ง มีชื่อว่า "นอร์ทฮอลแลนด์"และ"เซาท์ฮอลแลนด์" ในปี ค.ศ. 1863 ได้มีการปรับปรุงระบบชลประทานใหม่ เป็นจุดกำเนิดของการเติบโตของท่าเรือรอตเทอร์ดาม ต่อมา รอตเทอร์ดามถูกเยอรมนีเข้าโจมตีและยึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ได้รับความเสียหายอย่างมาก ในขณะเดียวกัน นาซีเยอรมนีได้สร้างกำแพงแห่งแอตแลนติกขึ้นตามแนวชายฝั่งของยุโรปภาคพื้นทวีปและสแกนดิเนเวียเพื่อป้องกันการรุกรานของสัมพันธมิตร แต่ได้พ่ายแพ้ไปและเซาท์ฮอลแลนด์ก็ได้อิสรภาพก่อนสงครามโลกจะสิ้นสุด ต่อมา ในปี ค.ศ. 1953 ภาคใต้ของเซาท์ฮอลแลนด์เผชิญกับวิกฤตการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่จากการไหลบ่าของน้ำในทะเลเหนือ เป็นเหตุให้ประชาชน 677 คนเสียชีวิต หลังจากนั้น รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้เริ่มโครงการใหญ่เดลตาเวิร์กส์ เพื่อป้องกันการท่วมของทะเล ภูมิศาสตร์เซาท์ฮอลแลนด์มีพื้นที่ 3,419 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นพื้นน้ำ 605 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดกับจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ทางทิศเหนือ ยูเทรกต์และเกลเดอร์ลันด์ทางทิศตะวันออก นอร์ทบราบันต์และเซลันด์ทางทิศใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่ค่อนข้างราบเรียบ มีที่ลุ่มมากมาย ตอนกลางของเซาท์ฮอลแลนด์เป็นพื้นที่เมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของมหานครรันสตัด ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์อย่างมาก พื้นที่ทางตะวันออกเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และทางใต้มีสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไรน์-เมิซ-สเกลต์ จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 52 เทศบาล โดยสามารถจัดกลุ่มได้ 6 กลุ่ม (COROP) ได้แก่ กลุ่มไลเดินและโบลเลนสเตรก: ฮิลเลอกอม, คากเอ็นบราสเซิม, คาทไวค์, ไลเดิน, ลิสเซอ, โนร์ดไวค์, อุกสท์เกสท์, เทย์ลิงเงิน, โฟร์สโคเทิน, ซูเทอร์เวาเดอ กลุ่มเฮก: เดอะเฮก, ไลด์สเคินดาม-โฟร์บูร์ก, ไพนาคเกอร์-โนทโดร์ป, ไรส์ไวค์, วาสเซอนาร์, ซูเทอร์เมร์ กลุ่มเดลฟท์และเวสต์แลนด์: เดลฟท์, มิดเดิน-เดลฟลันด์, เวสท์ลันด์ กลุ่มอีสต์เซาท์ฮอลแลนด์: อัลเพนอานเดนไรน์, โบเดอกราเฟิน-เรไวค์, เคาดา, คริมเพเนอร์วาร์ด, นิวโคป, วัดดิงซ์เฟน กลุ่มเซาท์เวสท์ฮอลแลนด์: อัลบลาสเซอร์ดาม, ดอร์เดรชท์, กีสเซินลานเดิน, โกรินเคิม, ฮาร์ดิงซ์เฟลด์-กีสเซินดาม, เฮนดริค-อิโด-อัมบาชท์, เลเดอร์โดร์ป, โมเลินลานเดิน, ปาเปนเดรชท์, สลิเดรชท์, ซไวน์เดรชท์ กลุ่มไรน์โมนด์: อัลบรันด์สวาร์ด, บาเรินเดรชท์, บริลล์, กาเปเลออานเดินไอส์เซิล, เฮลเลอฟุตสเลาส์, ฮุคสเคอ วาร์ด, คริมเพนอานเดินไอส์เซิล, ลานซิงเงอร์ลันด์, มาสเลา, นีสเซอวาร์ด, ริดเดอร์แคร์ก, รอตเทอร์ดาม, สกีดาม, วลาร์ดิงเงิน, เวสท์โฟร์น, เซาด์ปลาส ภูมิอากาศเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของเนเธอร์แลนด์ เซาท์ฮอลแลนด์มีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทร (Cfb) ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิพเพิน ภูมิอากาศได้รับอิทธิพลจากทะเลเหนือและมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งส่งผลให้ฤดูร้อนมีอากาศอบอุ่นแต่ไม่ร้อน และฤดูหนาวไม่หนาวเย็นจนเกินไป มีฝนตกทั่วไปในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว เนื่องจากเป็นที่ราบลมพายุจึงเกิดขึ้นบ่อยในฤดูหนาว แม้ว่าจะมีฝนตกได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงหกเดือนแรกของปีนั้นค่อนข้างแห้งแล้ง ลมตะวันออกสามารถส่งผลให้เกิดสภาพภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีปชั่วคราวโดยมีฤดูร้อนที่ค่อนข้างแห้งและอบอุ่น และฤดูหนาวที่หนาวเย็นและมีพายุ อุณหภูมิแตกต่างกันระหว่าง 2 °C ถึง 6 °C ในฤดูหนาวและ 17 °C ถึง 20 °C ในฤดูร้อน
เศรษฐกิจ![]() ![]() ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของภูมิภาคนี้มีมูลค่า 163.8 พันล้านยูโรในปี ค.ศ. 2018 คิดเป็นร้อยละ 21.2 ของประเทศ[9] เศรษฐกิจของจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์สามารถจำแนกได้ตามภาคธุรกิจดังนี้
บุคคลที่มีชื่อเสียงนักวิทยาศาสตร์สองคนที่มีชื่อเสียง ที่มีถิ่นกำเนิดจากเซาท์ฮอลแลนด์คือ:
ศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคนมีถิ่นกำเนิดมาจากจังหวัดนี้ เช่น:
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น![]() วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ![]() วิกิท่องเที่ยว มีคำแนะนำการท่องเที่ยวสำหรับ จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์
|
Portal di Ensiklopedia Dunia