จังหวัดตรังในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง พ.ศ. 2554 เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 กำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 โดยแบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 4 เขตเลือกตั้ง[1] จำนวนที่นั่งเท่าเดิมจากการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2550 แต่ละเขตเลือกตั้งจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เขตละ 1 คน บรรยากาศการเลือกตั้งสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหาเสียงด้วยวิธีการนั่งสองแถวโบราณหาเสียง พร้อมกับนางสุพร วงศ์หนองเตย ภรรยา ด.ช.สุขิตกุล หรือน้องต่อ อายุ 11 ปี ลูกชายคนเล็ก นายสาธร วงศ์หนองเตย น้องชาย ทั้งนี้ นายสาทิตย์ พร้อมทีมงานได้จอดรถแวะลงหาเสียงกับประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ พร้อมชูนโยบายการเรียนฟรี 15 ปี การเพิ่มเงินผู้สูงอายุให้มีสวัสดิการดีขึ้น การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ และการประกันราคาผลทางการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา และปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับ จ.ตรัง พร้อมกับอ้อนขอคะแนนเสียงจากประชาชนว่า หากตัดสินใจเลือกตนเอง ก็เท่ากับได้เลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และได้เลือก นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกันทีเดียวทั้ง 2 คน ที่สำคัญยังสนับสนุนให้ นายอภิสิทธิ์ ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ตนก็จะเดินหน้าสานต่อนโยบายที่ยังทำคั่งค้างในอดีตต่อไป[2] เมื่อคืนวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ที่บริเวณลานสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง 2 (ทุ่งแจ้ง) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ จังหวัดตรัง เป็นครั้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งการเปิดเวทีปราศรัยครั้งนี้นำโดย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎณระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 2 รวมทั้งแกนนำของพรรค เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ทั้ง 4 เขต ร่วมเปิดเวทีปราศรัยในครั้งนี้ ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่หาเสียงทั่วประเทศ แม้แต่ในพื้นที่ของเสื้อแดง หรือของพรรคเพื่อไทย หลายพื้นที่แม้ว่าจะถูกห้ามเข้าไปหาเสียงแต่ตนก็ได้เข้าไปทุกพื้นที่ และเกือบทุกพื้นที่ในภาคอสานและภาคเหนือ ก็จะมีกลุ่มก่อกวนโดยตลอด และจากการสอบถามชาวบ้านที่รักความเป็นธรรม ก็ได้บอกว่ากลุ่มก่อกวนไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แต่เป็นกลุ่มคนที่ได้ว่าจ้างมาเพื่อให้ก่อกวน ไม่ว่าตนหรือนายกรัฐมนตรี ไปที่ใดก็จะต้องตามรบกวนตลอด ในการปราศรัยหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อคืนที่ผ่านมา พลตำรวจตรีสาคร ทองมุนี ผบก.ภ.จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในการรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญ และแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวน 200 นาย โดยมีการตั้งด่านตรวจก่อนถึงเวทีปราศรัย 1 กิโลเมตร ซึ่งปรากฏว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนในวันเลือกตั้ง ก็จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2,000 นาย ประจำหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งเป็นชุดม้าเร็วในการติดตามผู้กระผิดกฎหมายเลือกตั้ง[3] ภาพรวมผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ (รวมทั้งจังหวัดตรัง)
ผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ (รายเขตเลือกตั้ง)
ผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต (รวมทั้งจังหวัดตรัง)
ผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต (รายเขตเลือกตั้ง)
ผลการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
ผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต
เขตเลือกตั้งที่ 1เขตการเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วยอำเภอเมืองตรัง
เขตเลือกตั้งที่ 2เขตการเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วยอำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา และอำเภอวังวิเศษ (ยกเว้นตำบลวังมะปราง)
เขตเลือกตั้งที่ 3เขตการเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วยอำเภอปะเหลียน อำเภอนาโยง อำเภอหาดสำราญ และอำเภอย่านตาขาว (เฉพาะตำบลนาชุมเห็ด ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในควน และตำบลหนองบ่อ)
เขตเลือกตั้งที่ 4เขตการเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วยอำเภอกันตัง อำเภอสิเกา อำเภอย่านตาขาว (ยกเว้นตำบลนาชุมเห็ด ตำบลโพรงจระเข้ ตำบลในตวน และตำบลหนองบ่อ) และอำเภอวังวิเศษ (เฉพาะตำบลวังมะปราง)
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia