จรัล มโนเพ็ชร
จรัล มโนเพ็ชร (1 มกราคม พ.ศ. 2494 – 3 กันยายน พ.ศ. 2544) เป็นศิลปินชาวไทย ทั้งนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง และนักแสดง งานดนตรีของจรัลมีเอกลักษณ์จากการสร้างสรรค์ภาษาถิ่นเหนือของเขาซึ่งเรียกว่า "โฟล์กซองคำเมือง" ที่ก่อเกิดขึ้นนับแต่ปี พ.ศ. 2520 และได้รับความสนใจจนเป็นที่ยอมรับ และกลายเป็นแบบอย่างบนแนวทางดนตรีท้องถิ่นร่วมสมัยในปัจจุบัน เอกลักษณ์ของเขาทั้งในการแต่งเพลง ร้องเพลง และเล่นดนตรี ทำให้จรัลได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชาโฟล์กซองคำเมือง" จรัลแต่งเพลงไว้กว่าสองร้อยเพลงในช่วงเวลาราวยี่สิบห้าปีของชีวิตศิลปินของเขา และได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเมื่อปี พ.ศ. 2537 ในฐานะ "บุคคลดีเด่นทางด้านการใช้ภาษา" ประวัติ![]() จรัล มโนเพ็ชร เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ในย่านที่เรียกว่าประตูเชียงใหม่ พ่อของเขาเป็นข้าราชการอยู่ที่แขวงการทางจังหวัดเชียงใหม่ ชื่อ สิงห์แก้ว มโนเพ็ชร ส่วนแม่ชื่อ เจ้าต่อมคำ (ณ เชียงใหม่) มโนเพ็ชร สืบเชื้อสายมาจากราชตระกูล ณ เชียงใหม่ จรัลเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2494[1] เป็นบุตรชายคนที่สอง มีพี่น้องชายหญิงรวมทั้งหมด 7 คน ครอบครัวเป็นชนชั้นกลาง มีชีวิตเรียบง่ายสมถะตามแบบวิถีชีวิตชาวเหนือทั่วไป ใฝ่ใจในพุทธศาสนา ทั้งพ่อและแม่ของจรัลจะไปทำบุญและร่วมงานพิธีทางศาสนาอยู่เสมอที่วัดใกล้บ้าน คือ วัดฟ่อนสร้อย ซึ่งเป็นวัดที่ครอบครัวนี้มีศรัทธาอย่างยิ่ง ด้วยครอบครัวมโนเพ็ชรเป็นครอบครัวใหญ่ พ่อของจรัลจึงต้องหารายได้พิเศษ ความที่เป็นคนมีฝีมือในด้านงานศิลปะหัตถกรรมท้องถิ่นที่สืบทอดตกมาจากบรรพบุรุษชาวเหนือ ทั้งการเขียนรูป และการแกะสลักไม้ พ่อของจรัลจึงมีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัว จรัลเองในเวลานั้นแม้จะอยู่ในวัยเด็ก แต่บางครั้งเมื่อพ่อมีงานพิเศษล้นมือจรัลจะเป็นผู้ช่วยพ่อของเขา ทั้งงานเขียนรูปและงานแกะสลักไม้ การศึกษาจรัลเข้าเรียนหนังสือครั้งแรกที่โรงเรียนพุทธิโสภณ แล้วจึงย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนเมตตาศึกษา จากนั้นจึงสอบเข้าเรียนในขั้นอุดมศึกษาที่วิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ จรัลฝึกเล่นกีตาร์มาตั้งแต่เด็กเพราะความชอบในดนตรี ทั้งจากที่เขาได้ฟังทางสถานีวิทยุในเชียงใหม่ และจากพวกมิชชันนารีที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในภาคเหนือ ระหว่างที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ จรัลช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวด้วยการทำงานเพื่อหารายได้พิเศษโดยไม่ต้องรบกวนเงินทองจากทางบ้าน เขาเริ่มต้นด้วยการรับจ้างร้องเพลงและเล่นกีตาร์ตามร้านอาหาร หรือตามคลับตามบาร์ในเชียงใหม่ ซึ่งในเวลานั้นยังมีอยู่เพียงไม่กี่แห่ง แนวดนตรีที่เขาชอบเป็นพิเศษคือดนตรีโฟล์ค คันทรี และบลูส์ ที่ต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลอย่างยิ่งในการแต่งเพลงของเขา เมื่อจบการศึกษาจากวิทยาลัย จรัลเข้าทำงานรับราชการเป็นงานแรกที่แขวงการทางอำเภอพะเยา (เวลานั้นพะเยายังไม่ได้รับการยกให้เป็นจังหวัดเหมือนในปัจจุบัน) ต่อมาลาออกจากราชการไปทำงานที่บริษัทไทยฟาร์มมิ่ง และที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จรัลยังคงทำงานประจำไปด้วยควบคู่กับการร้องเพลงตามร้านอาหาร ตามโรงแรมและคลับบาร์ในเชียงใหม่ จนกระทั่งลาออกจากงานที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อทำงานเพลงร่วมกับพี่น้อง จนต่อมากลายเป็น "ตำนาน" ของเพลงโฟล์คซองคำเมือง การเสียชีวิตจรัลเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวฉับพลัน เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2544 จังหวัดลำพูน ศพตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารเป็นเวลา 5 วัน มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2544 ณ สุสานบ้านหลวย จังหวัดลำพูน ผลงานการแสดงภาพยนตร์
ละครโทรทัศน์
ละครเวที
การพากย์
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และสารคดี
ผลงานเพลงโฟล์คซองคำเมืองชุดที่ 2 จรัญ มโนเพ็ชร โดย ท่าแพบรรณาคาร (พ.ศ. 2519) ผลงานชุดแรกอย่างไม่เป็นทางการ
ผลงานอัลบั้มชุดพิเศษ[อัลบั้มพิเศษและรวมเพลงฮิตในวาระต่าง ๆ] เสียงซึงสู่พิณเปี๊ยะ (พ.ศ. 2528)
(แผ่นที่ 1)
[เพลงประกอบภาพยนตร์] เพลงประกอบภาพยนตร์ ดอกไม้ร่วงที่แม่ริม (พ.ศ. 2522)
จรัล-ไหมไทย ลำนำแห่งขุนเขา (พ.ศ. 2531) ร่วมกับ วงไหมไทย ออร์เคสตรา
จรัล มโนเพ็ชร กับ สุนทรี เวชานนท์ ชุด โฟล์ค สเปเชียล
ศิลปินเพื่อชีวิต ชุด กำไร...ชีวิต 1
บันทึกการแสดงสด (คอนเสิร์ต)
เกียรติคุณที่ได้รับ
ลำดับสาแหรก
อ้างอิง
2. ปกแผ่นเสียง, ปกเทปคาสเซ็ท, ปกซีดี ผลงานของจรัล มโนเพ็ชร แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia