ฅนเหล็ก 2029 ภาค 2
ฅนเหล็ก 2029 ภาค 2 (อังกฤษ: Terminator 2: Judgment Day หรือ T2) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวโลดโผน นิยายวิทยาศาสตร์ ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1991 เป็นภาคต่อของเดอะ เทอร์มิเนเตอร์ กำกับโดย เจมส์ คาเมรอน นำแสดงโดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์, ลินดา แฮมิลตัน, โรเบิร์ต แพทริค และ เอ็ดเวิร์ด เฟอร์ลอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ชนะเลิศ รางวัลออสการ์ ใน 4 สาขา ได้แก่ บันทึกเสียงยอดเยี่ยม, ลำดับเสียงยอดเยี่ยม, เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม และ แต่งหน้ายอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 64 เรื่องย่อสิบปีหลังจากซาราห์ คอนเนอร์ (รับบทโดย แฮมิลตัน) ทำลายหุ่นยนต์สังหาร T-800 ได้ในภาคแรก ในปี ค.ศ. 1991 หุ่นยนต์สังหารรุ่นใหม่ รุ่น T-1000 (รับบทโดย แพทริค) ที่ก้าวหน้ากว่ารุ่นเดิม ถูกส่งย้อนเวลามาเพื่อสังหารจอห์น คอนเนอร์ ผู้นำฝ่ายกบฏต่อต้านหุ่นยนต์ในอนาคต ในวัยเก้าขวบ (รับบทโดย เฟอร์ลอง) ฝ่ายจอห์น คอนเนอร์ในอนาคต ก็ได้ส่งหุ่นยนต์สังหาร T-800 รุ่นเดียวกับในภาคแรก (รับบทโดย ชวาร์เซเน็กเกอร์) ที่ถูกยึดมาได้ และได้รับการตั้งโปรแกรมใหม่ ให้มีภารกิจคุ้มครองจอห์น และซาราห์ คอนเนอร์ ภาพยนตร์ย้อนให้เห็นว่า หลังจากเทอร์มิเนเตอร์ตัวแรกถูกทำลายไปในภาคแรก นักวิทยาศาสตร์สหรัฐได้พบเศษชิ้นส่วนไมโครโปรเซสเซอร์ที่หลงเหลืออยู่ และได้นำไปค้นคว้าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์โดย ดร. ไมล์ เบนเนท ไดสัน (รับบทโดย มอร์ตัน) นักวิทยาการคอมพิวเตอร์ ผู้สร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ SkyNet ซึ่งได้ก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1997 หลังจากให้กำเนิดจอห์น ซาราห์ คอนเนอร์ ซึ่งเดิมเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวาน ได้กลายเป็นคนที่ก้าวร้าว ฝึกฝนการใช้อาวุธ และพยายามลอบสังหาร ดร. ไดสัน พร้อมกับบอกใครต่อใครถึงระเบิดนิวเคลียร์ และหุ่นยนต์ลอบสังหารจากโลกอนาคต เมื่อถูกจับได้ ทำให้ถูกส่งตัวเป็นคนไข้โรงพยาบาลจิตเวช ในการดูแลของนายแพทย์ปีเตอร์ ซิลเบอร์แมน (รับบทโดย โบเอน) เบื้องหลังและความสำเร็จเฟรนไชส์เดอะ เทอร์มิเนเตอร์ ภาคนี้ นับว่าเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จที่สุด โดยภาคนี้นับว่าสร้างได้ง่ายกว่าภาคแรกมาก เนื่องจากทั้งทีมงานสร้างและนักแสดงประสบความสำเร็จอย่างงดงามมาแล้วจากภาคแรก โดย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กลับมาแสดงอีกครั้ง โดยรับบทหุ่นสังหาร T-800 ด้วยค่าตัว 20 ล้านเหรียญ และทำให้ ลินดา แฮมิลตัน นักแสดงสาวผู้รับบท ซาราห์ คอนเนอร์ ได้ร่วมงานกับเจมส์ คาเมรอน และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในเวลาต่อมา ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขณะที่ออกฉายในสหรัฐอเมริกา ได้ฉายชนกับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อีกเรื่องของปี คือ Robin Hood: Prince of Thieves ของวอร์เนอร์บราเธอร์ส แสดงนำโดย เควิน คอสเนอร์ ปรากฏว่า Terminator 2: Judgment Day ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และทำให้ Robin Hood: Prince of Thieves กลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความขาดทุนมากที่สุดเรื่องหนึ่งในขณะนั้น[4][5][6][7] ในส่วนของประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำมาเข้าฉายโดย สหมงคลฟิล์ม (ปัจจุบันในชื่อ มงคลเมเจอร์ ในเครือ สหมงคลฟีล์ม) และทำให้สหมงคลฟิล์มได้กำไรอย่างมหาศาล ซึ่งมีส่วนทำให้บริษัทเข้มแข็งยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบันในส่วนของภาพยนตร์ต่างประเทศ และเมื่อมีการออกเผยแพร่ในรูปแบบวีดีโอเทปก็มี 2 เวอร์ชัน คือ เวอร์ชันฉบับที่ฉายในโรงภาพยนตร์ และเวอร์ชันฉบับที่ผู้กำกับตัดต่อเอง (Director's cut) นับว่าเป็นเรื่องแรก ๆ เช่นเดียวกันในประเทศไทย[8] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |
Portal di Ensiklopedia Dunia