ครุฑ เมืองสุรินทร์
ครุฑ เมืองสุรินทร์ (ญี่ปุ่น: ガルーダ・ムアリンスン; อังกฤษ: Krut Muangsurin) เป็นนักมวยไทยชาวไทยจากการ์ตูนเรื่อง ลุยแหลกเกินหลักสูตร ซึ่งเขียนโดย มาโคโตะ นิวาโนะ ซึ่งเป็นนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น ที่มีการจัดพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารคอมิกเบรก (ญี่ปุ่น: コミックBREAK; อังกฤษ: comic break) ในประเทศญี่ปุ่น และปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศไทย ในนิตยสาร C-KID เล่ม 44 ปีพ.ศ. 2540 ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์[1] เขาเป็นผู้ซึ่งเคยเอาชนะมาจิมะ เร ผู้ใช้วิชายิวยิตสูแห่งสำนักยินไนซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องมาแล้วครั้งหนึ่ง[2] กล่าวกันว่า ผู้เขียนได้นำนามสกุลของนักมวยไทยที่มีชื่อว่า แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ มาใช้เป็นนามสกุลให้กับครุฑ และชื่อของครุฑ มาจากวิหคศักดิ์สิทธิ์ในเทพนิยายของฮินดู[2] ประวัติตามท้องเรื่องครุฑปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในการแข่งขันรายการ GIGA แบทเทิล ซึ่งเป็นการต่อสู้โดยไม่จำกัดศิลปะการต่อสู้ ที่จัดโดย "เดวิด ชาน" ครุฑไปป่วนเวทีการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งที่โกรากุเอ็งฮอลล์ และล้มนักมวยคิกบ็อกซิ่งไปสองราย ส่งผลให้มาจิมะ เร ไม่พอใจจึงเข้ามาต่อสู้กัน เรได้โดนท่าไม้ตายของครุฑจนสลบไป จากนั้นทั้งสองก็มาพบกันอีกที่ฟุกุโอกะโดม ซึ่งเป็นสนามเบสบอลที่มีหลังคาเปิดได้แห่งแรกของญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ที่บริเวณอ่าวฮากาตะ ของคิวชิว สนามแห่งนี้ถือได้ว่าดัดแปลงมาจากโคลอสเซียมอันเป็นสนามแข่งขันสมัยโรมันเรืองอำนาจ ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในท้ายที่สุด แม้ว่าครุฑจะเป็นฝ่ายพ่ายให้กับเร แต่เรก็ชนะครุฑด้วยความยากลำบาก ในภายหลังครุฑได้ปรากฏตัวอีกครั้งในช่วงสุดท้ายของภาคแรกพร้อมกับคิมมุนเซ กับคิมซังอู ซึ่งเป็นสองพี่น้องนักเทควันโด้จากเกาหลี โดยทั้งสามได้ช่วยเรต่อสู้กับศัตรูจนได้รับชัยชนะในที่สุด[3][4] ลักษณะตัวละครครุฑ เมืองสุรินทร์ เป็นนักมวยไทยที่มีรอยสักรูป "ปีกนก" อยู่ที่กลางหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงตัวละคร ครุฑ ในเทพนิยายที่มีปีกเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นรอยสักที่ผู้ฝึกสอนซึ่งมีชื่อว่า มนต์สวรรค์ สักให้ทุกครั้งสำหรับการสักขนทีละหนึ่งอันสำหรับชัยชนะแต่ละครั้ง และเมื่อรอยสักรูปปีกนกปรากฏที่กลางหลังอย่างสมบูรณ์ก็จะถือว่าครุฑเป็นผู้มีอิสรเสรี[2] เขาเริ่มการแข่งขันมวยไทยครั้งแรกในสนามมวยเวทีลุมพินีตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งปกติแล้วกำหนดไว้สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปจึงจะมีสิทธิ์แข่งได้ แต่เนื่องด้วยร่างกายที่ใหญ่โตของเขาจึงสามารถเข้าร่วมแข่งขันกับนักมวยรายอื่นได้[2] ครุฑเป็นนักมวยไทยที่แลดูเป็นมิตรกับคนรอบกาย แต่แทบไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่ารอยยิ้มที่เป็นมิตรของครุฑนั้นมีที่มาอันน่าขมขื่น[5] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
Portal di Ensiklopedia Dunia