การสำรวจดาวอังคาร![]() ภาพถ่ายตนเอง ของเพอร์เซอเวียแรนซ์ โรเวอร์ และ อินเจนูอิตี เฮลิคอปเตอร์ (ซ้ายมือ) บนดาวอังคาร (7 เมษายน 2021)
การสำรวจดาวอังคารเริ่มต้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากการสำรวจระยะไกลโดยยานสำรวจอวกาศที่ส่งมาจากโลก โดยเน้นไปที่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรณีวิทยาและศักยภาพในการตั้งถิ่นฐาน[1] การวางแผนเพื่อเดินทางในเชิงวิศวกรรมนั้นซับซ้อน ทำให้การสำรวจนั้นมีอัตราความล้มเหลวสูงโดยเฉพาะในระยะเริ่มต้น ประมาณร้อยละ 60 ของยานอวกาศทั้งหมดที่มุ่งสู่สำหรับดาวอังคารนั้นล้มเหลวก่อนที่จะเสร็จสิ้นภารกิจและในบางภารกิจ ล้มเหลวก่อนที่การสำรวจจะเริ่มขึ้น แม้กระนั้น บางภารกิจก็ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง เช่น ยานสปิริต และ ออปเพอร์จูนิที ที่สามารถปฏิบัติภารกิจเกินกว่าที่ได้กำหนดไว้[2] ปัจจุบันณ ปี 2021 มียานสำรวจอวกาศทั้งสิ้น 14 ยานสำรวจบนและรอบดาวอังคาร[3] ประกอบด้วย โรเวอร์ที่ปฏิบัติการบนพื้นผิวดาวอังคารทั้งสิ้นสี่โรเวอร์ ได้แก่ รถโรเวอร์ คิวริออซิตี และเพอร์เซอเวียแรนซ์ อินเจนูอิตีเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งดำเนินการโดยองค์การนาซา (NASA) ของสหรัฐ และ จู้หรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ เทียนเวิน-1 โดยองค์การอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA)[4][5] ยานโคจรรอบดาวอังคาร (ดาวเทียม) แปดดวง ได้แก่ 2001 Mars Odyssey Mars Express (MEX) มาร์สรีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์ (MRO) มงคลยาน (MOM) MAVEN ExoMars Trace Gas Orbiter (TGO) ยานโคจรเทียนเวิน-1 และ Hope และ สองแลนเดอร์ที่ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคาร คือ อินไซต์ และ เทียนเวิน-1 แลนเดอร์ ทั้งนี้ ภารกิจต่อไปที่คาดว่าจะมายังดาวอังคาร คือ โรเวอร์ โรซาลินด์ แฟรงคลิน ของรัฐวิสาหกิจรอสคอสมอสและองค์การอวกาศยุโรป และโครงการ Mars Orbiter Mission 2 ของอินเดีย ระบบดาวอังคาร (Martian system)การสำรวจดาวอังคารอยู่ในความสนใจของมนุษย์มาอย่างยาวนาน และการค้นพบใหม่ ๆ ยิ่งกระตุ้นความสนใจในการศึกษาและสำรวจดาวเคราะห์สีแดงนี้มากขึ้น การสังเกตด้วยกล้องส่องทางไกลในช่วงต้นเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสีพื้นผิวที่เกิดตามฤดูกาลและลักษณะเชิงเส้นที่ชัดเจน การสังเกตการณ์ด้วยกล้องส่องทางไกลเพิ่มเติมทำให้พบดวงจันทร์สองดวง ได้แก่ โฟบอสและดีมอส น้ำแข็งขั้วโลกของดาวอังคาร และ โอลิมปัส ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในระบบสุริยะ ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์หิน เหมือนกับโลก ที่ก่อตัวขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงครึ่งหนึ่งของโลก มีพื้นผิวที่เย็นและเหมือนทะเลทราย และมีชั้นบรรยากาศที่บางกว่ามาก[6] ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการปล่อยยานสำรวจ![]() ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการปล่อยยานสำรวจขึ้นสู่อวกาศโดยใช้พลังงานน้อย (the minimum-energy launch windows) เพื่อไปยังดาวอังคาร เกิดขึ้นประมาณทุก ๆ สองปีและสองเดือน (ราวทุก ๆ 780 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวอังคารโคจรมาใกล้โลกมากที่สุด)[7] และจะใช้พลังงานน้อยที่สุดในทุก ๆ 16 ปี[7]
ภารกิจในอดีตและปัจจุบันในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1960 โซเวียตได้ริเริ่มการส่งยานสำรวจไปยังดาวอังคาร เช่น ความพยายามที่จะโคจรผ่าน (flyby) และลงจอดแบบกระแทก (impact landing) ของ Mars 1962B แต่การโคจรผ่านครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จนั้นกระทำโดย มาริเนอร์ 4 ขององค์การนาซาเมื่อวันที่ 14-15 กรกฎาคม 1965 [9] ยาน มาริเนอร์ 9 กลายเป็นยานสำรวจอวกาศลำแรกที่โคจรรอบดาวเคราะห์ดวงอื่น เมื่อเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารได้สำเร็จ[10] ยานฯ ลำแรกที่สัมผัสพื้นผิวดาว คือ ยานสำรวจของสหภาพโซเวียต 2 ลำ: Mars 2 แลนเดอร์ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 1971 และยานลงจอด Mars 3 ในวันที่ 2 ธันวาคม 1971 แม้ว่า Mars 2 ได้ล้มเหลวในระหว่างการลดระดับ และ Mars 3 ที่ปฏิบัติการแค่ประมาณยี่สิบวินาทีหลังจากการลงจอดแบบนุ่มนวลครั้งแรกบนพื้นผิวดาว[11] ยาน Mars 6 เองก็ล้มเหลวในระหว่างการลดระดับในปี 1974 แต่ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศที่ไม่สมบูรณ์[12] โครงการไวกิงของนาซาในปี 1975 ประกอบด้วยยานโคจรสองลำ โดยแต่ละลำต่างประสบความสำเร็จในการลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารในปี 1976 พร้อมกับเป็นผู้ส่งข้อมูลภาพพาโนรามาสีแรกของดาวอังคารสู่โลก ไวกิง 1 สามารถปฏิบัติภารกิจได้หกปี ไวกิง 2 สามปี[13] ยานสำรวจ โฟบอส 1 และ 2 ของสหภาพโซเวียตถูกส่งไปยังดาวอังคารในปี 1988 เพื่อศึกษาดาวอังคารและดวงจันทร์สองดวงโดยเน้นที่โฟบอส โฟบอส 1 ขาดการติดต่อระหว่างการเดินทางไปดาวอังคาร โฟบอส 2 สามารถถ่ายภาพดาวอังคารและโฟบอสได้สำเร็จ แต่ล้มเหลวก่อนที่จะปล่อยยานลงจอดสองลำสู่พื้นผิวโฟบอส[14] ภารกิจที่สิ้นสุดก่อนกำหนด หลังจาก โฟบอส 1 และ 2 เมื่อปี 1988 ได้แก่
อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia