การคุกคามการคุกคาม เป็นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่น่ารังเกียจและทำให้ความหวาดกลัว[1] ส่วนมากแล้วการคุกคามจะมีลักษณะเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามหรือทำให้ผู้อื่นอับอาย ส่วนในทางกฎหมายจะมีลักษณะเป็นการก่อกวน สร้างความไม่พอใจ ความไม่สบายใจและการข่มขู่ การคุกคามยังการเลือกปฎิบัติเพื่อทำให้บุคคลอื่น ๆ เสียสิทธิประโยชน์ของบุคคลของตน หากมีการคุกคามบ่อยครั้งจะเป็นการยกระดับไปสู่การข่มเหงรังแก ชนิดอิเล็กทรอนิกส์เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ว่ารัฐบาลจะเป็นทำการทรมาน โจมตีและคุกคามเป้าหมายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือการทรมานทางจิตโดยใช้รังสีแม่เหล็กไฟฟ้าหรืออาวุธคลื่นอิเล็คโทรแมคเนติก[2][3] ยกตัวอย่างเช่น นักจิทวิยาหลายคนได้เสนอหลักฐานการใช้คนที่มีอาการประสาทหลอนทางการได้ยิน โรคหลงผิด[4]หรือความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ เพื่อทำลายชื่อเสียงเป้าหมายบนชุมชนออนไลน์[2][5] โลกออนไลน์![]() เป็นการคุกคามโดยใช้คำหยาบ การดูถูกและความคิดเห็นเชิงลบต่อเป้าหมาย เช่นพูดดูถูกสำเนียงภาษา เชื้อชาติ เพศ ศาสนาของเป้าหมายซึ่งมักเกิดขึ้นในห้องสนทนาออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการนำรูปภาพส่วนตัว รูปครอบครัวของเหยือไปโพสต์บนโซเชียลมีเดียเพื่อให้เกิดความอับอายและเกิดความทุกข์ ตำรวจคือการที่ตำรวจหรือผู้บังคับใช้กฎหมายปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อเหยื่อโดยการใช้กำลังเกิดกว่าเหตุ การบังคับขู่เข็ญ เหยียดสีผิวเชื้อชาติและเพศหรื่ออื่น ๆ ที่ดูเหมือนเป็นการเลือกปฏิบัติ เชื้อชาติเป็นการคุกคามบุคคลที่มีเชื้อชาติต่างจากตน โดนอาจจะเป็นการคุกคามในเชิงเหยีดหนือแสดงท่าทางที่ทำให้ผุ้ถูกคุกคามรู้สึกอาย ศาสนาเป็นการคุกคามบุคคลที่มีความเชื้อและศาสนาต่างจากตนเอง การคุกคามแบบนี้อาจรวมถึงการบังคับให้พูดโดยไม่สมัครใจ เพศลักษณะเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีทั้งกายและวาจาต่อเพศของเหยื่อ การคุกคามเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่มักเกิดขึ้นในที่ทำงาน โรงเรียน และกองทัพ ซึ่งส่วนมากแล้วมักเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย[8][9] อ้างอิง
|
Portal di Ensiklopedia Dunia