กองเรือยุทธการ (อังกฤษ: Royal Thai Fleet) คือกำลังหลักในส่วนกำลังรบของกองทัพเรือไทย ควบคุมการปฏิบัติการทางเรือและการสงครามพิเศษทางเรือ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2466 กองบัญชาการตั้งอยู่ที่ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ประวัติ
กองเรือยุทธการเกิดขึ้นมาพร้อมกับการใช้กำลังรบทางเรือของไทยในอดีต แต่ในอดีตไม่มีการแบ่งเหล่าหรือหน่วยงานชัดเจนนัก กระทั่งในรัชกาลที่ 4 ได้มีการแบ่งหน่วยกำลังรบออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งกำลังทางน้ำแบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ ทหารเรือวังหน้า สังกัดการบัญชาการจากพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และทหารเรือสำหรับรบ สังกัดการบัญชาการจากเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยะวงศ์ว่าที่สมุหกลาโหม ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการโปรดเกล้าให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยกำลังทางเรือให้ทันสมัยเทียบเท่ากับกำลังทางเรือของยุโรป แบ่งออกเป็น 2 หน่วยใหญ่ คือ กรมเรือพระที่นั่งเวสาตรี (Royal Yacht Troops) ประกอบด้วยเรือกลเล็ก เรือพระที่นั่ง และเรือหลวงไม่ติดอาวุธ ขึ้นตรงต่อกรมแสง และกรมอรสุมพร (Gun Vessels) ประกอบด้วยเรือรบที่ติดอาวุธ ขึ้นต่อกรมพระกลาโหม ซึ่งต่อมาใน พ.ศ. 2430 ได้โปรดเกล้าให้รวมและจัดตั้ง กรมทหารเรือ เพื่อบังคับบัญชาทหารเรือทั้งหมด สังกัดอยู่ใต้กรมยุทธนาธิการที่บัญชาการร่วมกันทั้งทหารบกและทหารเรือ ก่อนจะแยกออกมาขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์ในปี พ.ศ. 2434[6]
จากนั้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 กรมทหารเรือถูกยกฐานะขึ้นเป็นกระทวงทหารเรือ พร้อมทั้งตั้งหน่วยเพื่อดูแลกำลังทางเรือขึ้นมาโดยเฉพาะเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2466 ชื่อว่า "กองทัพเรือ" เป็นหน่วยขึ้นตรงต่อกระทรวงทหารเรือ จากนั้นในปี พ.ศ. 2475-2476[7] ได้มีการเปลี่ยนชื่อหน่วย กองทัพเรือ เป็นชื่อว่า กองเรือรบ ประกอบกับในรัชสมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีพระกรุณาโปรดเกล้าในรวมกระทรวงทหารบก และกระทรวงทหารเรือ รวมกันเป็นกระทรวงกลาโหม และในปี พ.ศ. 2477 กระทรวงทหารเรือได้เปลี่ยนชื่อเป็นกองทัพเรือ ให้สอดคล้องกับกองทัพบก เวลาต่อมากองเรือรบจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองเรือยุทธการในปี พ.ศ. 2498 และใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน[8]
ในปี พ.ศ. 2567 กองเรือยุทธการได้นำเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.99 ขึ้นมาจัดแสดงบริเวณหน้าทางเข้ากองบัญชาการกองเรือยุทธการ เพื่อแสดงถึงการเชิดชูเรือของพ่อ ซึ่งเรือ ต.99 เป็นเรือที่พระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริและพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการต่อเรือด้วยพระองค์เอง[9]
ภารกิจ
กองเรือยุทธการมีภารกิจในการจัดเตรียมกำลังทางเรือสำหรับการปฏิบัติการทางทะเล ปฏิบัติการในลำน้ำ และปฏิบัติการด้วยอากาศยานแบบต่าง ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและรักษาอธิปไตยของประเทศ คุ้มครองเรือประมง และทำหน้าที่ยามฝั่งในการช่วเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล[8][7]
นอกจากนี้กองเรือยุทธการยังเป็นหน่วยหลักในการประสานงานในการฝึกร่วมผสมทางทะเลกับมิตรประเทศต่าง ๆ เช่น กองทัพเรือสหรัฐ กองทัพเรืออินเดีย[10] กองทัพเรือจีน[11] ในรายการฝึกต่าง ๆ เช่น
โครงสร้าง
กองเรือยุทธการ ประกอบด้วยโครงสร้างหน่วยงานภายใน ดังนี้
กองบัญชาการ
กองบัญชาการ กองเรือยุทธการ ประกอบด้วยหน่วยงานภายใน ได้แก่
- กองกำลังพล
- กองข่าว
- กองยุทธการ
- กองส่งกำลังบำรุง
- กองสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
- กองกิจการพลเรือน
- กองโครงการและงบประมาณ
- กองแผนการช่าง
- กองตรวจสอบสภาพยุทโธปกรณ์
- กองการเงิน
- กองพระธรรมนูญ
หน่วยขึ้นตรง
กองเรือยุทธการ ประกอบด้วยหน่วยขึ้นตรง[7] ได้แก่
เรือหลวงนราธิวาส (OPV-512) สังกัดหมวดเรือที่ 1 กองเรือตรวจอ่าวกองเรือตรวจอ่าว – มีเรือประจำกองเรือทั้งหมด 20 ลำ แบ่งเป็น 3 หมวดเรือ ได้แก่[12]
- หมวดเรือที่ 1 – มีเรือประจำหมวด 2 ลำ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 2 – มีเรือประจำหมวด 9 ลำ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 3 – มีเรือประจำหมวด 9 ลำ ได้แก่
เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช (FFG-471) สังกัดหมวดเรือที่ 2 กองเรือฟริเกตที่ 1กองเรือฟริเกตที่ 1 – มีเรือฟริเกตประจำกองเรือทั้งหมด 7 ลำ แบ่งเป็น 3 หมวดเรือ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 1 – มีเรือประจำหมวด 2 ลำ[13] ได้แก่
- หมวดเรือที่ 2 – มีเรือประจำหมวด 2 ลำ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 3 – มีเรือประจำหมวด 3 ลำ ได้แก่
เรือหลวงสายบุรี (FFG-458) สังกัดหมวดเรือที่ 2 กองเรือฟริเกตที่ 2กองเรือฟริเกตที่ 2 – มีเรือฟริเกตประจำกองเรือทั้งหมด 6 ลำ แบ่งเป็น 3 หมวดเรือ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 1 – มีเรือประจำหมวด 2 ลำ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 2 – มีเรือประจำหมวด 2 ลำ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 3 – มีเรือประจำหมวด 2 ลำ ได้แก่
- กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์
- กองเรือดำน้ำ
- หมวดเรือที่ 3 – คาดว่าจะได้เรือดำน้ำเข้ามาประจำการในเร็ว ๆ นี้
- กองเรือทุ่นระเบิด – มีเรือประจำกองเรือทั้งหมด 17 ลำ แบ่งเป็น 3 หมวดเรือ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 1 – ไม่มีเรือประจำการ
- หมวดเรือที่ 2 – มีเรือประจำหมวด 4 ลำ[15] ได้แก่
- หมวดเรือที่ 3 – มีเรือประจำหมวด 13 ลำ ได้แก่
- เรือสนับสนุนการต่อต้านทุ่นระเบิด (สตท.) จำนวน 1 ลำ คือ เรือหลวงถลาง[15]
- เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น จำนวน 12 ลำ คือ เรือ ท.1–12[15]
เรือหลวงสุรินทร์ (LST-722) สังกัดหมวดเรือที่ 1 กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ – มีเรือยกพลขึ้นประจำกองเรือทั้งหมด 25 ลำ แบ่งเป็น 3 หมวดเรือ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 1 – มีเรือประจำหมวด 4 ลำ[16] ได้แก่
- หมวดเรือที่ 2 – มีเรือประจำหมวด 9 ลำ[16] ได้แก่
- หมวดเรือที่ 3 – มีเรือประจำหมวด 16 ลำ ได้แก่
เรือ ล.141 ในสังกัดของกองเรือลำน้ำกองเรือยามฝั่ง – มีเรือแบ่งเป็น 3 หมวดเรือ ได้แก่
- หมวดเรือที่ 1 – มีเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง (ตกฝ.) ประจำหมวด 11 ลำ[22] ได้แก่
- ชุดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.991 จำนวน 3 ลำ คือ เรือ ต.991–993
- ชุดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.994 จำนวน 3 ลำ คือ เรือ ต.994–996
- ชุดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.111 จำนวน 3 ลำ คือ เรือ ต.111–113
- ชุดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต.114 จำนวน 2 ลำ คือ เรือ ต.114–115
- หมวดเรือที่ 2 – มีเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง (ตกฝ.) ประจำหมวด 3 ลำ[23] ได้แก่
- ชุดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ต. 81 จำนวน 3 ลำ คือ เรือ ต.81–83[24]
- หมวดเรือที่ 3 – มีเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (ตกช.) ประจำหมวด 24 ลำ[25] ได้แก่
- ชุดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.227 คือ เรือ ต.277
- ชุดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.228 จำนวน 3 ลำ คือ เรือ ต.228–230
- ชุดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.232 จำนวน 6 ลำ คือ เรือ ต.232–237
- ชุดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.261 จำนวน 5 ลำ คือ เรือ ต.261–265
- ชุดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.266 จำนวน 4 ลำ คือ เรือ ต.266–269
- ชุดเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.270 จำนวน 5 ลำ คือ เรือ ต.270–274
- กองเรือลำน้ำ
เอ็มเอช-60 ซีฮอว์ก สังกัดฝูงบิน 2 กองการบินทหารเรือกองการบินทหารเรือ
- หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ
- กองการฝึก กองเรือยุทธการ
- กองสนับสนุน กองเรือยุทธการ
อ้างอิง