กองทัพผสมรัฐว้า หรือ กองทัพสหรัฐว้า [ 5] (อังกฤษ : United Wa State Army ) หรือที่นิยมเรียกว่า กองกำลังว้าแดง เป็นกองกำลังติดอาวุธของพรรคผสมรัฐว้า ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในบริเวณรัฐฉานตอนเหนือส่วนที่ใกล้ชิดมณฑลยูนนาน ของประเทศจีน และรัฐฉานตอนใต้ส่วนที่ใกล้ชิดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ของประเทศไทย
กองกำลังว้าแดงอยู่ภายใต้การนำของเป้าหยั่วเสียง (鮑有祥) ผู้นำคนที่สอง ซึ่งประกาศตนเป็นประธานเขตบริหารพิเศษแห่งรัฐว้า แม้ทางการพม่าไม่เคยยอมรับอำนาจของว้าแดงอย่างเป็นทางการ แต่ในหลายโอกาส กองทัพพม่าก็ให้การสนับสนุนว้าแดงให้รบกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยอื่น เช่น กองทัพรัฐฉานใต้ ของเจ้ายอดศึก
ในปี 2556 สหรัฐอเมริกาจัดให้กองกำลังว้าแดงถูกจัดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และต่อมาในปี 2558 ทางการสหรัฐถือว่าองค์กรของเหว่ย เซียะกัง และกองทัพผสมรัฐว้า เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งค้าทั้งเฮโรอีน และยาบ้า
การวางกำลัง
ดินแดนในควบคุมของกองทัพผสมรัฐว้า
เป้าหยั่วเสียง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพผสมรัฐว้า
กองทัพผสมรัฐว้า (UWSA) มี "กองพล" จำนวน 5 กองพลที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย–พม่า:
กองพลที่ 778 อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Ta Marn
กองพลที่ 772 อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Ta Hsong
กองพลที่ 775 อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Yang Guojong
กองพลที่ 248 อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Ta Hsang
กองพลที่ 518 อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Li Hsarm-nab
บนชายแดนจีน–พม่า มีกองกำลังประจำการอีกสาม "กองพล":
กองพลที่ 318
กองพลที่ 418
กองพลที่ 468[ 6]
กองทัพผมสรัฐว้ามีกำลังพลประจำการ 30,000 นาย และมีกำลังเสริมอีก 10,000 นาย[ 7] ถือเป็นกลุ่มที่ประกาศหยุดยิงที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่ง เงินเดือนรายเดือนอยู่ที่ 60 หยวน (7.5 ดอลลาร์สหรัฐ) เท่านั้น[ 8] กองทัพผสมรัฐว้าปะทะกับกองทัพไทยในเดือนมีนาคม–พฤษภาคม พ.ศ. 2545[ 9]
การจัดหาอาวุธ
ตามรายงานของ Jane's Intelligence Review เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 จีนได้กลายเป็นแหล่งอาวุธหลักของกองทัพผสมรัฐว้า โดยแทนที่แหล่งอาวุธจากตลาดมืดแบบดั้งเดิมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทยและกัมพูชา [ 10] การถ่ายโอนอาวุธไปยังกองทัพผสมรัฐว้าจากจีน จะดำเนินการจากระดับสูงสุดในปักกิ่ง[ 11]
ในปี พ.ศ. 2544 Jane's รายงานว่ากองทัพผสมรัฐว้าได้จัดหาขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (SAM) HN-5N จากจีนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพื้นที่ใกล้ชายแดนไทย ซึ่งมีรายงานว่ามีห้องปฏิบัติการสำหรับผลิตยาบ้า 40-50 แห่งที่ใช้ผลิตขีปนาวุธดังกล่าว[ 12] ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 Janes ยังรายงานอีกว่ากองทัพผสมรัฐว้าได้จัดหาขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ FN-6 เพื่อมาแทนที่ HN-5N ที่ใช้งาน[ 13] ซึ่งกองทัพสหรัฐว้าได้ปฏิเสธในทันที[ 14] นอกจากนี้ยังเป็นคนกลางระหว่างผู้ผลิตอาวุธของจีนและกลุ่มกบฏอื่น ๆ ในพม่า[ 15] ในปี พ.ศ. 2555 การสนับสนุนจากจีนเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่สามารถจัดหายานเกราะ เช่น ปืนจู่โจม PTL-02 ขนาด 6 × 6 ที่พบเห็นในปางคำ [ 16]
เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556 Jane's IHS รายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ มิล เอ็มไอ-17 หลายลำซึ่งติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ TY-90 ได้รับการส่งมอบให้กับกองทัพผมสรัฐว้าโดยจีน[ 17] ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกปัดตกโดยจีน แหล่งข่าวทางทหารไทย แหล่งข่าวชาติพันธุ์อื่น ๆ ของพม่า และกองทัพผสมรัฐว้าเอง[ 18] [ 19] ในปี พ.ศ. 2558 IHS Jane's รายงานว่าสมาชิกกองทัพผมสรัฐว้าถูกถ่ายภาพขณะฝึกซ้อมกับปืนใหญ่วิถีโค้ง Type 96 ขนาด 122 มม. และ ATGM HJ-8 ของจีน[ 20]
รายงานของ Jane ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 ระบุว่า UWSA ได้หันมาผลิตอาวุธเพื่อเสริมรายได้จากการค้าอาวุธและยาเสพติด และเริ่มสายการผลิตอาวุธขนาดเล็กสำหรับ AK-47 [ 21] [ 22]
นโยบายการเกณฑ์ทหาร
กองทัพผมสรัฐว้า (UWSA) กำหนดให้มีผู้ชายอย่างน้อย 1 คนในแต่ละครัวเรือนที่รับราชการในกองทัพผมสรัฐว้า หรือหน่วยงานของรัฐว้า[ 23] : 180 ครอบครัวขนาดใหญ่ต้องจัดหาผู้ชาย 2 คนให้กับกองทัพหรือหน่วยงาน[ 23] : 180
อ้างอิง
↑ Johnson, Tim (29 August 2009). "China Urges Burma to Bridle Ethnic Militia Uprising at Border" . The Washington Post . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 15 September 2010.
↑ "UWSP/UWSA » Myanmar Peace Monitor" . 6 June 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ June 11, 2023.
↑ "Myanmar's Wa Army Vows Neutrality in Fight Between Regime, Ethnic All…" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2023-11-01.
↑ Davis, Anthony (2022-02-22). "Wa an early winner of Myanmar's post-coup war" . Asia Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ October 7, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-24 .
↑ "กองทัพว้า ขยายฐานใกล้ชายแดนไทย: บททดสอบเชิงยุทธศาสตร์ของไทยควรทำอย่างไร?" . THE STANDARD . 2024-11-29.
↑ "Transfer of Wa commander raises questions" . S.H.A.N. 9 June 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 9 August 2010. สืบค้นเมื่อ 12 June 2009 .
↑ "WikiLeaks Cables Show China's Support for UWSA" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2022-05-28. สืบค้นเมื่อ 29 November 2014 .
↑ S.H.A.N. "United Wa State Army (UWSA) payroll still going Communist way" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 29 November 2014 .
↑ "Talk of reopened border stirs bad memories for army" . The Nation . 27 August 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ December 5, 2014. สืบค้นเมื่อ 29 November 2014 .
↑ Pubby, Manu (22 May 2008). "China emerging as main source of arms to N-E rebels: Jane's Review" . Indianexpress . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2023-01-30. สืบค้นเมื่อ 8 June 2008 .
↑ Lintner, Bertil (March 2021). The Wa of Myanmar and China's Quest for Global Dominance . Chiang Mai: Silkworm Books. ISBN 9786162151705 .
↑ Davis, Anthony (28 March 2001). "Myanmar heat turned up with SAMs from China" . Jane's Information Group . สืบค้นเมื่อ 5 March 2009 . [ลิงก์เสีย ]
↑ Davis, Anthony (18 November 2014). "UWSA fielding Chinese FN-6 MANPADS" . Jane's Information Group . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 1, 2015. สืบค้นเมื่อ 23 November 2014 .
↑ "United Wa State Army Denies Anti-Aircraft Purchase" . The Irrawaddy . 20 November 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ May 25, 2022. สืบค้นเมื่อ 23 November 2014 .
↑ Linn, Zin (December 7, 2012). "Can Burma Influence Wa Army to Abide by its Constitution?" . Asian Correspondent. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ September 13, 2014. สืบค้นเมื่อ 29 November 2014 .
↑ Schearf, Daniel; Pike, John (January 25, 2013). "With Burma in Mind, China Quietly Supports Wa Rebels" . globalsecurity.org . Voice of America . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ September 15, 2022. สืบค้นเมื่อ 29 November 2014 .
↑ "China 'sends armed helicopters to Myanmar separatists' - IHS Jane's 360" . www.janes.com . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 25 April 2014. สืบค้นเมื่อ 12 January 2022 .
↑ "After Chinese Arms Allegations, UWSA Shows Off 'Thai' Military Hardware" . The Irrawaddy . 14 May 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ September 19, 2022. สืบค้นเมื่อ 14 May 2013 .
↑ "Doubts cast on Wa helicopter rumors" . Mizzima News . 20 June 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 20 June 2013. สืบค้นเมื่อ 20 June 2013 .
↑ Davis, Anthony. "Wa army fielding new Chinese artillery, ATGMs" . IHS Jane's Defence Weekly . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-16. สืบค้นเมื่อ 23 July 2015 .
↑ Lawi Weng (16 December 2008). "AK-47s – Made in Wa State" . The Irrawaddy . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2011-06-05. สืบค้นเมื่อ 22 December 2008 .
↑ Lawi Weng. "Armed Insurgents in Burma Face Shortage of Ammunition" . The Irrawaddy 22 December 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2022-09-15. สืบค้นเมื่อ 22 December 2008 .
↑ 23.0 23.1 Ong, Andrew (2023). Stalemate: Autonomy and Insurgency on the China-Myanmar Border . Cornell University Press . ISBN 978-1-5017-7071-5 . JSTOR 10.7591/j.ctv2t8b78b .
แหล่งข้อมูลอื่น
Chouvy, Pierre-Arnaud & Meissonnier, Joël, "Yaa Baa. Production, traffic, and consumption of methamphetamine in Mainland Southeast Asia", Singapore University Press, 2004
Chouvy, Pierre-Arnaud, "Myanmar's Wa: Likely Losers in the Opium War", 24 January 24 2004, Asia Times
Photos of United Wa State Army (UWSA) and Shan State Army-South (SSA-S) military outposts along the border of Thailand, Chiang Rai province
"U.S. Links 11 Individuals, 16 Companies to Burma Drug Syndicate." Distributed by the Bureau of International Information Programs, U.S. Department of State. November 4, 2005.
Jack Picone. "A Gentler War on Drugs." Utne, September-October 2005, pp. 68-71; originally in Colors magazine (Winter 2004-05)
The Bondage of Opium - a proposal and a plea UWSP